Brother MFC-J2510 และ Brother MFC-J2310

บราเดอร์ รุกเปิดตัวนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ตระกูล อิ้งค์เบเนฟิท (InkBenefit) ชูจุดขายพิมพ์แนวยาว ประหยัดหมึก ประหยัดเวลา

– แถมมาพร้อมดีไซน์และฟังก์ชั่นแบบปฏิวัติวงการพิมพ์ได้ถึง A3 –

บราเดอร์ รุกตลาดอิ้งค์เจทมัลติฟังก์ชั่นสีแบบเต็มสูบ หลังยอดขาย “Brother MFC-J2510” ติดลมบน ล่าสุดส่งน้องเล็ก “Brother MFC-2310” เพื่อต้องการรักษามาร์เก็ตแชร์ A3 มัลติฟังก์ชั่นยังคงเน้น จุดขายด้านดีไซน์ผสานฟังก์ชั่นที่เหนือกว่า ที่มีทั้งไวร์เลสและทัชสกรีนมาในเครื่องเดียวกัน พิมพ์ A4 ทั้งยังพิมพ์ได้สูงสุดถึง A3 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าระดับกลางถึงบน ด้วยราคาเบาๆ แค่ 7,990 บาท แถมเพิ่มช่องทางขายรวม 120 ตัวแทนจำหน่ายเพื่อง่ายต่อการเข้าถึง

นายทาคาโอะ (แอนดี้) ชิมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 บราเดอร์ ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตแบบสวนกระแสตลาดรวม จึงส่งมัลติฟังก์ชั่นสีใหม่ในตระกูล“อิ้งค์เบเนฟิท (InkBenefit)” ซึ่งถือเป็นอีกครั้งที่บราเดอร์ได้คิดค้น และพัฒนาแบบปฏิวัติวงการพิมพ์โลกจนทำให้ยอดขายในรุ่นดังกล่าวเติบโตอย่างมาก และจากกระแสตอบรับ ของตลาดเมืองไทย บราเดอร์ฯ จึงได้เผยโฉมเครื่องพิมพ์ในตระกูลอิ้งค์เบเนฟิท รุ่นล่าสุด Brother MFC-J2310 ออกสู่มือผู้บริโภคชาวไทย เพื่อเจาะกลุ่มตลาดระดับกลางถึงบนหลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการขายกับ Brother MFC-2510 ที่เน้นเจาะกลุ่มไฮเอนด์มาแล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมั่นใจว่าการนำเสนอเครื่องรุ่น ล่าสุดจะสามารถเพิ่มยอดขายให้แก่บราเดอร์ฯ ได้อย่างมาก อีกทั้งยังมีแบรนด์ ที่ลงมาตอบโจทย์ ในเซกเมนต์ ดังกล่าวไม่มากนัก ซึ่งเชื่อว่าการเปิดตัวในครั้งนี้จะทำให้บราเดอร์ฯ เติบโตแบบสวนกระแสอย่างต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีแรก 2556

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมความสำเร็จของเครื่องพิมพ์อิ้งค์เจทมัลติฟังก์ชั่นสีใหม่ ในตระกูล “อิ้งค์เบเนฟิท (InkBenefit)” ว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บราเดอร์ฯ สามารถครองความเป็น เจ้าตลาดอิ้งค์เจทมัลติฟังก์ชั่น A3 โดยครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 91% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการนำเสนอ เครื่องพิมพ์ในตระกูลอิ้งค์เบเนฟิท นอกจากนี้ ในกลุ่มโมโนเลเซอร์และอิ้งค์เจทมัลติฟังก์ชั่น A4 บราเดอร์ก็ยัง ครองส่วนแบ่งสูงสุดอยู่ที่ 30% และ 45% ตามลำดับ

ด้านนางสาวสุขุมาล เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล อิ้งค์เบเนฟิท ว่า Brother MFC-2510 และ BrotherMFC-J2310 ถือเป็นผลงานการคิดค้นและพัฒนาอย่างเหนือชั้นเพื่ออีกขั้นแห่ง มาตรฐานการพิมพ์ที่ครบครันทั้งด้านการดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาเสมือนเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับเทรนด์ดีไซน์ การตกแต่งแบบโมเดิร์นในปัจจุบันมีขนาดกระทัดรัดแต่สามารถส่งมอบคุณภาพงานพิมพ์ที่เป็นเลิศครบครัน ในเครื่องเดียวด้วยคุณสมบัติการพิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร และแฟกซ์ ใช้งานง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสด้วยระบบทัชสกรีน พร้อมพิมพ์เอกสาร 2 หน้าอัตโนมัติ อีกทั้งยังรองรับการพิมพ์เอกสารขนาด A3 และช่วยประหยัดพื้นที่ด้วยระบบ Wireless network สะดวกสุดด้วยการสั่งพิมพ์เอกสารและสแกนเอกสารไปยังเครื่อง iPhone, iPad รวมถึงโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ AndroidTM หรือ Windows® โดยตรง พร้อมรับประกันสินค้าเป็นระยะเวลาถึง 2 ปี ซึ่งถือว่าคุ้มค่าอย่างมากกับกลุ่มลูกค้าในทุกระดับ

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิ้งค์เจท มัลติฟังก์ชั่นสีใหม่ในตระกูล “อิ้งค์เบเนฟิท (InkBenefit)” มีวางจำหน่ายแล้ว ทั้งในรุ่น Brother MFC-2510 ในราคา 9,990 บาท และ Brother MFC-J2310 ในราคา 7,990 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสินค้าบราเดอร์ทั่วประเทศ

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Brother Contact Center โทร.02-665-7777 หรือ www.brother.co.th