ปุ่มเมนูแบบปุ่มกดสำหรับปรับแต่งค่าจะอยู่ทางด้านขวาของจอภาพ และไฟแสดงสถานะเมื่อมีการทำงานจะเป็นสีขาว หากปิดการทำงานจะเป็นสีส้ม
พอร์ต kensington lock สำหรับป้องกันขโมยก็มีมาให้ด้วย
ด้านซ้ายล่างของด้านหลังจะเป็นตำแหน่งของพอร์ตเสียบไฟ AC แบบ 3 ขา จะไม่มีอะแด็ปเตอร์มาให้ เพราะมีเพาเวอร์ซัพพลายอยู่ในตัว แต่เท่าที่สังเกตลูบๆคลำๆ บริเวณภาคจ่ายไฟก็ไม่ร้อนนะครับ เพราะจอรุ่นนี้ประหยัดไฟ กินไฟน้อย ถ้าเป็นสถานะ On Mode จะใช้พลังงานเพียงแค่ 30 วัตต์เท่านั้น
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อสายสัญญาณ จะมีมาให้ 2 พอร์ต ก็คือ พอร์ต DVI-D และพอร์ต D-Sub และอยู่ทางขวาล่างของด้านหลังจอครับ
ตัวล็อคระหว่างแกนเหล็กที่ขาจอ เมื่อเสียบเข้ากับตัวจอ ก็สามารถเข้าได้ด้วยการออกแรงเพียงนิดหน่อย
เมื่อต่อทั้งตัวหน้าจอและขาเข้าด้วยกัน แล้วทำการวางขึ้น ก็พบว่า ฐานสามารถรับน้ำหนักจากการวางได้สบายครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะ ขาจอมีขนาดใหญ่ ค่อนข้างแข็งแรงมาก
มุมเงยของจอ BenQ GL2450 สามารถปรับออกได้แบบสุดๆที่ 15 องศา
การก้มหน้าจอลง สามารถทำมุมได้เต็มที่เพียง -5 องศา
เมื่อเสียบสายสัญญาณ DVI-D กับสายไฟ AC เสร็จแล้ว เราก็มาเริ่มกันเลย
ในส่วนของตำแหน่งการรับชมไม่ว่าตำแหน่งที่ดูจากทางด้านข้าง ไม่ว่าจะซ้าย, ขวา หรือด้านบนของจอ BenQ GL2450 ตามสเปคจะระบุเอาไว้ที่ 170/160 เท่าที่สังเกต รายละเอียดสีที่ได้ ยังไม่เจอการแสดงผลที่ผิดเพี้ยน และจอตัวนี้ผมก็ได้ทดสอบด้วยการนำมาใช้งานเป็นจอหลักด้วยเลย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้านเอกสารส่งลูกค้าก็ดี การอัพเดตเนื้อหาลงเว็บก็ดี หรือจะตัดต่อและตกแต่งภาพก็ดี ทดสอบดูหนัง และลองเล่นก็ด้วย สังเกตได้ว่าภาพที่ได้จากการมองด้วยสายตาทำได้ดีทีเดียว แต่ในส่วนของพื้นที่ที่มีแสงสีขาว จะทำได้ออกมาค่อนข้างสว่างไปหน่อย
อุปกรณ์ที่แถมมาให้ก็จะมีสายไฟ AC, แผ่นคู่มือ, แผ่นไดร์เวอร์ซีดี, และสายสัญญาณ D-Sub มาให้ 1 ชุด