วิธีแก้ปัญหาการใช้งานดิสก์ 100% บน Windows 11

0
15
วิธีแก้ปัญหาการใช้งานดิสก์ 100% บน Windows 11

หากคุณพบว่าอัตราการใช้งานดิสก์ของคอมพิวเตอร์ Windows 11 ของคุณอยู่ที่ 100% อาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าและไม่เสถียร ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะมีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้ในการแก้ไขปัญหานี้ได้ในเวลาไม่นาน

สาเหตุที่ทำให้การใช้งานดิสก์สูงถึง 100%

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการแก้ไขปัญหานี้ เรามาทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้การใช้งานดิสก์สูงถึง 100% กันก่อน เพื่อให้คุณสามารถหาทางป้องกันและแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. การทำงานของโปรเซสที่ใช้ดิสก์สูง

  • บางโปรแกรมหรือกระบวนการทำงานในระบบปฏิบัติการอาจใช้พื้นที่ดิสก์มากจนทำให้เกิดการใช้งานดิสก์สูงถึง 100%
  • ตัวอย่างเช่น Windows Search, Microsoft Edge, หรือกระบวนการของแอนตี้ไวรัสที่ทำการสแกนไฟล์ต่างๆ

2. การดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตของ Windows

  • Windows อาจจะกำลังดาวน์โหลดหรือกำลังติดตั้งการอัปเดตอยู่เบื้องหลัง ทำให้ดิสก์มีการใช้งานสูง

3. การตั้งค่าความจำเสมือน (Virtual Memory)

  • หากมีการตั้งค่าความจำเสมือน (Virtual Memory) ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ดิสก์ถูกใช้งานสูง โดยเฉพาะหาก RAM ของเครื่องไม่เพียงพอ

4. ซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานทรัพยากรสูง

  • ซอฟต์แวร์บางประเภทเช่นเกม, โปรแกรมตกแต่งภาพ หรือโปรแกรมที่ต้องการประมวลผลสูงอาจทำให้ดิสก์ใช้งานเต็มที่

วิธีการแก้ไขปัญหาการใช้งานดิสก์ 100% บน Windows 11

เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ดิสก์มีการใช้งานสูงแล้ว ต่อไปนี้คือวิธีการที่คุณสามารถใช้เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

1. ตรวจสอบกระบวนการที่ใช้งานดิสก์สูง

ตรวจสอบจาก Task Manager

  • เปิด Task Manager (กด Ctrl + Shift + Esc) และไปที่แท็บ Processes
  • ดูว่าโปรเซสไหนที่ใช้ดิสก์มากที่สุด
  • หากพบโปรเซสที่ใช้งานดิสก์สูง เช่น Windows Search หรือ Antivirus ให้ลองหยุดกระบวนการเหล่านั้นชั่วคราว เพื่อดูว่าปัญหาถูกแก้ไขหรือไม่

การปิด Windows Search ชั่วคราว

  • เปิด Run (กด Windows + R) แล้วพิมพ์ services.msc และกด Enter
  • หา Windows Search ในรายการ แล้วคลิกขวาและเลือก Stop

การปิด Windows Search ถาวร

  • หากการปิด Windows Search ช่วยแก้ปัญหาได้ คุณสามารถตั้งค่าให้ปิดถาวรได้
  • คลิกขวาที่ Windows Search, เลือก Properties, และตั้งค่า Startup Type เป็น Disabled

3. ปิดการทำงานของ SysMain (Superfetch)

การหยุด SysMain ชั่วคราว

  • เปิด Task Manager แล้วไปที่แท็บ Services
  • หาดู SysMain และคลิกขวาแล้วเลือก Stop

การปิด SysMain ถาวร

  • เปิด Run (กด Windows + R), พิมพ์ services.msc แล้วกด Enter
  • หา SysMain, คลิกขวาเลือก Properties, และตั้งค่า Startup Type เป็น Disabled

4. ตรวจสอบการตั้งค่าความจำเสมือน (Virtual Memory)

การตั้งค่าความจำเสมือนที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ดิสก์ใช้งานมากเกินไป หากคุณมี RAM น้อย การตั้งค่าความจำเสมือนให้เหมาะสมจะช่วยลดการใช้งานดิสก์

วิธีการตั้งค่าความจำเสมือน

  • ไปที่ Settings > System > About, แล้วคลิกที่ Advanced system settings
  • ในแท็บ Performance ให้คลิก Settings
  • ไปที่แท็บ Advanced และตรวจสอบขนาดของ Virtual Memory หากจำเป็นให้เพิ่มขนาดของมัน

5. การใช้ Disk Cleanup

การลบไฟล์ชั่วคราวและไฟล์ระบบที่ไม่จำเป็นจะช่วยลดการใช้งานดิสก์

วิธีการทำ Disk Cleanup

  • พิมพ์ Disk Cleanup ในช่องค้นหาและเลือก Disk Cleanup
  • เลือกไดรฟ์ที่คุณต้องการทำการล้าง (โดยปกติจะเป็น C:) และคลิก OK
  • เลือกที่จะลบไฟล์ระบบและไฟล์ชั่วคราว เพื่อคืนพื้นที่ดิสก์

6. การตรวจสอบไวรัสหรือซอฟต์แวร์ที่ไม่พึงประสงค์

บางครั้งไวรัสหรือซอฟต์แวร์ที่ไม่พึงประสงค์อาจทำให้การใช้งานดิสก์สูงเกินไป การสแกนหาไวรัสและมัลแวร์อาจช่วยแก้ปัญหานี้ได้

วิธีการสแกนหาไวรัส

  • ใช้ Windows Defender หรือโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่คุณใช้อยู่ เพื่อทำการสแกนหามัลแวร์ในเครื่องของคุณ

7. ตรวจสอบความผิดปกติของดิสก์ (Disk Check)

หากดิสก์ของคุณมีปัญหาทางกายภาพหรือมีข้อผิดพลาด การตรวจสอบและซ่อมแซมดิสก์สามารถช่วยได้

การตรวจสอบดิสก์

  • เปิด Command Prompt ในโหมดผู้ดูแลระบบ (คลิกขวาที่ Start, เลือก Command Prompt (Admin))
  • พิมพ์คำสั่ง chkdsk /f และกด Enter เพื่อให้ Windows ตรวจสอบและซ่อมแซมข้อผิดพลาดของดิสก์

สรุป

การที่ดิสก์ของ Windows 11 ใช้งานสูงถึง 100% อาจทำให้ระบบช้าลงและมีปัญหากับการทำงานต่างๆ แต่ด้วยการปรับตั้งค่าหรือการแก้ไขบางอย่าง คุณสามารถลดการใช้งานดิสก์และทำให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลองใช้วิธีการข้างต้นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ และหากยังไม่หาย คุณอาจต้องพิจารณาการติดตั้ง Windows ใหม่หรือตรวจสอบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม



คุณคิดเห็นอย่างไรกับข่าว/บทความนี้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่