Google Chrome เป็นหนึ่งในเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ในบางกรณี คุณอาจต้องการ บล็อกการดาวน์โหลดไฟล์ เพื่อป้องกันมัลแวร์ ลดความเสี่ยงจากไฟล์อันตราย หรือควบคุมพฤติกรรมการใช้งานของเด็กและพนักงาน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีปิดหรือบล็อกการดาวน์โหลดบน Chrome อย่างละเอียด ด้วยเทคนิคที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับ SEO
ทำไมต้องบล็อกการดาวน์โหลดไฟล์ใน Chrome?
การบล็อกการดาวน์โหลดไฟล์สามารถช่วยให้คุณได้รับประโยชน์มากมาย เช่น:
- ป้องกันไวรัสและมัลแวร์: ลดความเสี่ยงจากไฟล์ที่ไม่ปลอดภัย
- ควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต: ป้องกันเด็กหรือพนักงานดาวน์โหลดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
- ลดการใช้แบนด์วิดท์: หลีกเลี่ยงการใช้ปริมาณข้อมูลอินเทอร์เน็ตโดยไม่จำเป็น
- เพิ่มความปลอดภัยขององค์กร: ควบคุมไฟล์ที่สามารถดาวน์โหลดได้ในสภาพแวดล้อมขององค์กร
วิธีบล็อกการดาวน์โหลดไฟล์ใน Google Chrome
1. ปิดการดาวน์โหลดผ่านการตั้งค่า Chrome (Chrome Settings)
หากต้องการปิดการดาวน์โหลดไฟล์จากบางเว็บไซต์หรือบล็อกการดาวน์โหลดหลายไฟล์พร้อมกัน สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านการตั้งค่า Chrome
ขั้นตอน:
- เปิด Google Chrome
- พิมพ์
chrome://settings/content/automaticDownloads
ลงในแถบที่อยู่ - กด Enter
- ไปที่หัวข้อ “Automatic downloads”
- เลือก “Don’t allow any site to download multiple files automatically”
ข้อดีของวิธีนี้: ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
2. ใช้ Group Policy Editor (เฉพาะ Windows Pro, Enterprise และ Education)
สำหรับผู้ใช้ Windows รุ่นที่รองรับ Group Policy Editor (GPEdit) คุณสามารถตั้งค่าเพื่อบล็อกการดาวน์โหลดได้
วิธีทำ:
- กด Win + R แล้วพิมพ์
gpedit.msc
กด Enter - ไปที่:
Computer Configuration > Administrative Templates > Google > Google Chrome
- ค้นหา “Allow Download Restrictions”
- ดับเบิลคลิกและเลือก “Enabled”
- ในส่วน “Options” เลือกค่า “Block all downloads”
- คลิก Apply > OK และรีสตาร์ท Chrome
ข้อดี: สามารถบล็อกการดาวน์โหลดทั้งหมดโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์
3. บล็อกการดาวน์โหลดผ่าน Registry Editor (Windows)
สำหรับผู้ที่ไม่มี GPEdit สามารถใช้ Registry Editor ได้
วิธีทำ:
- กด Win + R แล้วพิมพ์
regedit
กด Enter - ไปที่:
HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Policies\Google\Chrome
(ถ้ายังไม่มีโฟลเดอร์ Google หรือ Chrome ให้สร้างขึ้นใหม่)
- คลิกขวาที่ Chrome > เลือก New > DWORD (32-bit) Value
- ตั้งชื่อเป็น DownloadRestrictions
- ดับเบิลคลิกและกำหนดค่าเป็น 3 (บล็อกทุกการดาวน์โหลด)
- กด OK และรีสตาร์ทเครื่อง
ข้อดี: สามารถบังคับใช้กับทุกบัญชีผู้ใช้ในคอมพิวเตอร์
4. ใช้ Chrome Extension สำหรับการบล็อกการดาวน์โหลด
มีส่วนขยาย (Extensions) บน Chrome Web Store ที่ช่วยบล็อกการดาวน์โหลดได้ ตัวอย่างเช่น:
- Block Download – บล็อกการดาวน์โหลดทุกประเภท
- Site Blocker – บล็อกเฉพาะบางเว็บไซต์
- Guardian Browser Protection – ควบคุมการดาวน์โหลดและการเข้าถึงเว็บไซต์
วิธีติดตั้ง:
- เปิด Chrome Web Store คลิกที่นี่
- ค้นหา “Block Download” หรือส่วนขยายที่ต้องการ
- คลิก Add to Chrome
- กด Add Extension และกำหนดค่าตามต้องการ
ข้อดี: ใช้งานง่าย ไม่ต้องปรับแต่งระบบปฏิบัติการ
5. ใช้ Parental Control (ควบคุมการใช้งานสำหรับเด็กและพนักงาน)
หากต้องการควบคุมการดาวน์โหลดสำหรับเด็กหรือพนักงาน Google Family Link และ Windows Parental Controls เป็นตัวเลือกที่ดี
วิธีใช้ Google Family Link:
- ดาวน์โหลด Google Family Link บนอุปกรณ์ของคุณ
- ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ที่ต้องการควบคุม
- ไปที่ “Digital Wellbeing & parental controls”
- ตั้งค่าการบล็อกการดาวน์โหลดหรือควบคุมการเข้าถึงเว็บไซต์
ข้อดี: ควบคุมอุปกรณ์ได้จากระยะไกล เหมาะสำหรับผู้ปกครอง
สรุป
✅ วิธีที่ดีที่สุดในการบล็อกการดาวน์โหลดไฟล์ใน Chrome:
วิธี | ระดับความปลอดภัย | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|
ตั้งค่า Chrome | ⭐⭐⭐ | ผู้ใช้ทั่วไป |
Group Policy Editor | ⭐⭐⭐⭐ | องค์กรและผู้ใช้ Windows Pro ขึ้นไป |
Registry Editor | ⭐⭐⭐ | ผู้ใช้ Windows ทุกเวอร์ชัน |
Chrome Extensions | ⭐⭐ | ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการวิธีง่าย ๆ |
Parental Control | ⭐⭐⭐⭐ | ผู้ปกครองที่ต้องการควบคุมเด็ก |
✅ หากคุณต้องการ บล็อกทุกการดาวน์โหลด แนะนำให้ใช้ Group Policy หรือ Registry Editor ✅ หากต้องการควบคุม การดาวน์โหลดเฉพาะบางเว็บไซต์ ให้ใช้ Chrome Extensions ✅ หากเป็น การควบคุมเด็ก ใช้ Google Family Link เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการดาวน์โหลดไฟล์ใน Chrome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ!