วิธีเพิ่ม FPS ในเกมบน Windows 11 ให้เล่นลื่นไหล ไม่มีสะดุด

0
14
วิธีเพิ่ม FPS ในเกมบน Windows 11 ให้เล่นลื่นไหล ไม่มีสะดุด

หากคุณเป็นเกมเมอร์ที่เล่นเกมบน Windows 11 และพบว่า FPS (Frames Per Second) ต่ำ ทำให้ภาพกระตุกหรือไม่ลื่นไหล นี่คือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข การเพิ่ม FPS ไม่เพียงแต่ทำให้เกมดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณตอบสนองเร็วขึ้นในการเล่นเกมแบบแข่งขันอีกด้วย

บทความนี้จะแนะนำวิธีเพิ่ม FPS ในเกมบน Windows 11 อย่างละเอียด พร้อมโครงสร้าง SEO-friendly ที่ช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้งานได้จริง

วิธีตรวจสอบ FPS ของเกม

ก่อนที่เราจะไปเพิ่ม FPS เราต้องรู้วิธีเช็ค FPS ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเปลี่ยนแปลงหลังจากการปรับแต่ง

วิธีใช้ Xbox Game Bar

  1. กด Win + G เพื่อเปิด Xbox Game Bar
  2. ไปที่ Performance แล้วเลือก FPS
  3. เปิดเกมที่ต้องการ และสังเกตค่า FPS ที่มุมหน้าจอ

วิธีใช้ซอฟต์แวร์เสริม

  • MSI Afterburner (รองรับ NVIDIA และ AMD)
  • FRAPS (รองรับเกมส่วนใหญ่)
  • NVIDIA GeForce Experience (สำหรับการ์ดจอ NVIDIA)

️ วิธีเพิ่ม FPS ในเกมบน Windows 11

1. ปรับแต่งการตั้งค่ากราฟิกในเกม

หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดคือการลดรายละเอียดของกราฟิกในเกมเพื่อให้ FPS สูงขึ้น

ค่าที่ควรลดลงเพื่อเพิ่ม FPS

  • Resolution: จาก 1920×1080 ลดเป็น 1600×900 หรือ 1280×720
  • Texture Quality: ปรับจาก Ultra เป็น Medium หรือ Low
  • Shadows: ปิดหรือปรับเป็น Low
  • Anti-Aliasing: เลือก FXAA หรือปิดไปเลย
  • V-Sync: ปิดเพื่อลดการจำกัด FPS
  • Motion Blur: ปิดเพื่อลดความเบลอของภาพ

2. เปิดใช้งาน Game Mode บน Windows 11

Game Mode จะช่วยปิดแอปที่ไม่จำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU และ GPU

วิธีเปิด Game Mode

  1. ไปที่ Settings
  2. เลือก Gaming
  3. คลิกที่ Game Mode และเปิดใช้งาน

3. ปรับแต่ง Graphics Performance Preference

ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถกำหนดให้เกมใช้ GPU ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้

วิธีตั้งค่า High Performance

  1. ไปที่ Settings > System > Display
  2. คลิก Graphics
  3. เลือกเกมที่ต้องการ > Options
  4. ตั้งค่าเป็น High Performance

4. อัปเดตไดรเวอร์การ์ดจอ

การ์ดจอที่ใช้ไดรเวอร์เวอร์ชันเก่าอาจทำให้ FPS ลดลง

วิธีอัปเดตไดรเวอร์

  • NVIDIA: ดาวน์โหลดจาก GeForce Experience
  • AMD: อัปเดตผ่าน Adrenalin Software
  • Intel: ใช้ Intel Graphics Command Center

5. ปิดโปรแกรมที่รันอยู่เบื้องหลัง

แอปพลิเคชันที่รันอยู่เบื้องหลัง เช่น Discord, Chrome, และ OneDrive อาจกินทรัพยากรเครื่อง

วิธีปิดแอปที่ไม่จำเป็น

  1. กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
  2. ไปที่แท็บ Processes
  3. คลิกขวาที่แอปที่ไม่จำเป็น > End Task

6. ปรับแต่ง Power Plan ให้เป็น High Performance

วิธีเปลี่ยน Power Plan

  1. กด Win + X > Power Options
  2. เลือก Additional power settings
  3. ตั้งค่าเป็น High Performance หรือ Ultimate Performance

7. ปิดเอฟเฟกต์พิเศษของ Windows 11

Windows 11 มีเอฟเฟกต์ภาพที่สวยงาม แต่สามารถลด FPS ได้

วิธีปิดเอฟเฟกต์

  1. กด Win + R พิมพ์ sysdm.cpl แล้วกด Enter
  2. ไปที่แท็บ Advanced > Performance > Settings
  3. เลือก Adjust for best performance

8. ปิดการอัปเดต Windows ชั่วคราว

การอัปเดต Windows อาจใช้ทรัพยากรเครื่องโดยไม่รู้ตัว

วิธีปิดอัปเดต

  1. ไปที่ Settings > Windows Update
  2. คลิก Pause updates for 7 days

9. ล้างไฟล์ขยะและรีสตาร์ทเครื่อง

วิธีล้างไฟล์ขยะด้วย Disk Cleanup

  1. กด Win + R พิมพ์ cleanmgr แล้วกด Enter
  2. เลือกไดรฟ์ C: และคลิก OK
  3. เลือก Temporary files, Recycle Bin, System files แล้วกด Delete

10. ใช้ซอฟต์แวร์เพิ่ม FPS

โปรแกรมที่ช่วยเพิ่ม FPS

  • Razer Cortex – ปิดแอปที่ไม่จำเป็นขณะเล่นเกม
  • MSI Afterburner – ปรับแต่งการ์ดจอและตรวจสอบ FPS
  • NVIDIA Reflex – ลดเวลาแฝงของระบบ (สำหรับการ์ดจอ NVIDIA)

บทสรุป

การเพิ่ม FPS ในเกมบน Windows 11 สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งการตั้งค่ากราฟิก อัปเดตไดรเวอร์ หรือปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น หากคุณลองทำตามวิธีเหล่านี้ รับรองว่าเกมของคุณจะเล่นได้ลื่นขึ้นแน่นอน!


คุณคิดเห็นอย่างไรกับข่าว/บทความนี้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่